หากคุณชอบดูหนัง Sci-Fi คุณอาจจะเคยเห็นหุ่นยนต์ที่ช่วยมนุษย์ในการผ่าตัด หรืออาจจะผ่าตัดด้วยการสั่งการจากหมอที่สั่งสมประสบการณ์มามากมายหลายปี
สิ่งเหล่านี้อยู่ในอนาคตหรือ?…?
คำตอบ คือ เปล่าเลย หุ่นยนต์ช่วยในการผ่าตัด หรือหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์เริ่มมีการพัฒนาแล้วในปัจจุบัน
Optimus (Prime?) the Robot
เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Tesla ได้เปิดตัวหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ที่ชื่อว่า Optimus ขึ้นมาซึ่งเป็นการประกาศตัวว่าบริษัทจะเข้าสู่ตลาดหุ่นยนต์แล้วนั่นเอง
โดย CEO Elos Musk ได้ประกาศว่าการพัฒนาหุ่นยนต์นั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของมนุษยชาติเนื่องจากว่า ตัวเค้าเองเชื่อว่าในปัจจุบันมนุษย์เราจะมีไม่มากพอในอนาคตเพื่อผลิตสินค้าที่เราต้องใช้ในชีวิตประจำวัน และการนำหุ่นยนต์มาเป็นเครื่องมือช่วยนั้นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ในการเปิดตัวนั้นเราเห็นหุ่นยนต์ Optimus เดินไปเดินมาเหมือนในหนังที่เราเคยดูเช่นเรื่อง Transformer นั่นแหละครับ ใช่แล้วครับ ชื่อเดียวกันนั่นละครับ แต่ขาดว่ายังไม่สามารถแปลงเป็นรถบรรทุกได้เท่านั้นเอง หรืออาจจะพูดได้ว่า ตอนนี้ยังแค่เต้นกับยกของได้แค่นั้นเอง
โดยตัวหุ่นยนต์นี้มีน้ำหนักราว 73 กิโลกรัม และ มีแบตเตอรี่ 2.3 kwh สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi และ LTE ได้เหมือนมือถือที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
แต่…เจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้ยังไม่มีการเปิดขายเนื่องจากว่า Elon บอกว่า เราสามารถพัฒนาหุ่นยนต์ขึ้นมาเป็นรูปร่างได้ แต่เรายังไม่สามารถพัฒนาให้หุ่นยนต์ตัวนี้มีประโยชน์และใช้งานได้จริงนั้นเอง
โดยการพัฒนาเริ่มต้นนั้นจะเป็นการนำหุ่นยนต์ตัวนี้ไปใช้ผลิตในโรงงาน EV ของ Tesla นั่นเอง โดยตัวผู้ผลิตเชื่อว่า ตลาดหุ่นยนต์นี้มีตลาดที่ใหญ่กว่ารถยนต์ EV ในปัจจุบันเสียอีก
คู่แข่งทางด้านหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์
หากเราไปดูที่คู่แข่ง หลายคนก็คงจะเคยได้ยินบริษัทที่ชื่อ Boston Dynamic ที่มีการสนับสนุนจากบริษัทรถอย่าง Hyundai ให้มีการผลิตหุ่นยนต์หน้าตาเหมือนสุนัข หรือ หุ่นยนต์ที่เหมือนคนขึ้นมา ที่มีการใช้ในทางช่วยเหลือฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้ ถอนชนวนระเบิด หรือเป็นการยกของโดยทั่วไป
Boston Dynamic นั้นพัฒนาหุ่นยนต์เสมือนคนมาตั้งแต่ปี 1992 และเพิ่งจะเริ่มวางขายตัวสินค้าในตลาดในปี 2020 นับเป็นเวลากว่า 28 ปีในการพัฒนาหุ่นยนต์ที่มีการเดิน และการขยับใกล้เคียงกับมนุษย์ที่ใช้ระยะเวลานานมากพอสมควร
ทำไมการแข่งขันและการพัฒนาหุ่นยนต์ถึงสำคัญต่อเรา
แล้วทำไมเราถึงตื่นเต้นกับเรื่องนี้?? ก็แค่หุ่นยนต์ที่เดินได้และหน้าตาเหมือนมนุษย์ไม่ใช่หรอ?
คำตอบก็คือ เราคิดว่าการพัฒนาเหล่านี้ล้วนแต่ใช้เวลาและความพยายามของมนุษย์ที่มารวมตัวกันเพื่อให้เกิดการประยุกต์ใช้ความรู้ที่มีอยู่ให้เกิดสิ่งใหม่ๆ สิ่งนี้แหละที่มีความสำคัญในการผลักดันความรู้และเทคโนโลยีของโลกนี้ให้เคลื่อนไปด้านหน้า
หากใครเคยได้ยิน Elon Musk พูดถึงเรื่องความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีแล้วละก็ คุณจะรู้ได้เลยว่า เทคโนโลยีที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้จะไม่มีการขยับเคลื่อนไปด้านหน้าเลย เพื่อเป็นการซ้ำเติม…เทคโนโลยีจะก้าวถอยหลังด้วยซ้ำหากว่ามนุษย์เรานั่งเฉยๆและไม่ทำอะไร ตัวอย่างเช่น มนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์ครั้งแรกเมื่อปี 1969 แต่ภารกิจสุดท้ายที่มนุษย์ไปดวงจันทร์นั้นคือ Apollo 17 เกิดขึ้นเมื่อปี 1972 นั้นเกิดขึ้นเมื่อ 50 ปีที่แล้ว….
ลองจินตการว่า เราไปเหยียบดวงจันทร์ได้เมื่อ 50 ปีที่แล้ว แต่ว่า มนุษย์เราไม่ได้ก้าวไปไกลกว่านั้นเลยนับตั้งแต่นั้นมา แล้วเราทำอะไรกันอยู่ในช่วงเวลานี้
เทคโนโลยีนั้นเกิดจากสั่งสมประสบการณ์ และการรวมตัวกันของนักพัฒนาที่คิดจะเปลี่ยนแปลงโลกของเราไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ใช้เวลาอย่างมหาศาล สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะสามารถลอกเลียนแบบได้โดยใช้เวลา 4-5 ปี แต่คุณต้องเข้าใจเทคโนโลยีอย่างแท้จริงถึงจะพัฒนาสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้
หากหุ่นยนต์พวกนี้สามารถทำงานแรงงานแทนเราได้ ภายใน 10 ปีที่จะมาถึง แล้วพวกเราหละสะสมประสบการณ์และความรู้มากพอที่จะไม่ถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์เหล่านี้แล้วหรือยัง?
ปรพล ตันติธารทอง
