สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการแทรกแซงเงินเยนของประเทศญี่ปุ่น

ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ได้มีการคาดการณ์ว่าทางประเทศญี่ปุ่นได้มีการแทรกแซงค่าเงินมาแล้วถึงสองครั้ง วันนี้ผู้เขียนจะมาเล่าเรื่องการแทรกแซงค่าเงินให้ฟัง

คำถามง่ายก็คือ ใครเป็นคนจัดการเรื่องการเงินเหล่านี้? มีการร่วมมือระหว่างประเทศอื่นนอกจากประเทศญี่ปุ่นหรือไม่? และการแทรกแซงเงินที่มีการแลกเปลี่ยนมากเป็นอันดับสามของโลกนี้มีผมกระทบกับพวกเราอย่างไรบ้าง?

เรามาทวนคร่าวๆกันก่อนดีกว่าว่าญี่ปุ่นแทรกแซงการเงินเมื่อไหร่?

การแทรกแซงการเงินครั้งแรกนั้นมีการคาดการณ์ว่าทำครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 โดยใช้เงินไปมากกว่า 2.8 ล้านล้านเยน เมื่อเยนนั้นขึ้นไปแตะ 146 เยน ต่อ 1 ดอลล่าสหรัฐ โดยวันนั้นเงินเยนแข็งค่าขึ้นไปถึง 140 เยน ต่อ 1 ดอลล่าสหรัฐ

ครั้งที่สองนั้นมีการคาดการณ์ว่าเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565 หรือเมื่อหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการคอนเฟิร์มว่ามีการใช้ปริมาณเงินในการแทรกแซงไปจำนวนเท่าไหร่ โดยปัจจุบันเงินเยนแข็งค่าขึ้นจาก 151 เยน ถึง 145 เยน ภายในหนึ่งอาทิตย์เลยทีเดียว

แล้วใครกันเป็นผู้มีอำนาจหรือสั่งการการแทรกแซงการเงิน?

ในทางทฤษฎี อำนาจการสั่งการนั้นมากจากรัฐมนตรีการคลังของญี่ปุ่น แต่ผู้ที่ทำการ ซื้อ และ ขาย เงินเยน หรือ เงินดอลล่าจริงๆนั้น คือ ธนาคารแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่น

แต่ในทางปฏิบัติ การตัดสินใจนั้นขึ้นอยู่กับ Masato Kanda-san รองรัฐมนตรีการคลัง ผู้มีอำนาจการตัดสินใจควบคุมการเงินของประเทศญี่ปุ่นเอง โดยได้รับการยอมรับจากรัฐมนตรีการคลัง Susuki-san เรียบร้อยแล้ว

ที่สำคัญคุณรู้หรือไม่ว่า นี่เป็นการแทรกแซงการเงินครั้งแรกกของญี่ปุ่น หลังจากไม่ได้ทำมานานถึง 24 ปี

หลังจากการตัดสินใจของ Kanda-san และ Susuki-san แล้ว ธนาคารกลางของญี่ปุ่นจะถูกบอกอย่างชัดเจนว่าต้องใช้เงินเท่ไหร่ในการซื้อเยน (พอซื้อเยน ค่าเงินเยนจะแข็งขึ้น) แต่ถ้ามีการขายเงินดอลล่า (เงินดอลล่าก็จะมีค่าอ่อนลง)

การแทรกแซงการเงินครั้งนี้ ญี่ปุ่นทำเองประเทศเดียวได้จริงหรือ?

ปกติแล้วการแทรกแซงการเงินนั้นเป็นไปได้ยากเนื่องจากว่า เงินเยน หรือ ตลาด Foreign Exchange Market นั้นมีการแลกเปลี่ยนจำนวนมาก (High Volume) ธนาคารกลางของประเทศใดประเทศนึงไม่มีอำนาจการเงินมากพอที่จะเปลี่ยนการเคลื่อนไหวของค่าเงินได้

แต่…การแทรกแซงนั้นก็ถือเป็นการยับยั้งไม่ให้ค่าเงินเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็ว และกะทันหันเกินไป อย่างไรก็แล้วแต่ นักลงทุนเชื่อว่าสองครั้งที่ผ่านมา ธนาคารกลางของประเทศญี่ปุ่นนั้นได้ทำการแทรกแซงค่าเงินเพียงประเทศเดียว

หากเรามองในอดีต การแทรกแซงครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อมีแผ่นดินไหว เมื่อปี 2011 โดยเป็นการร่วมมือกันระหว่างประเทศ G7 ทั้งหมด

แล้วเรารู้ได้อย่างไรว่าเกิดการแทรกแซงค่าเงินขึ้นแล้ว?

เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 Kanda-san ออกมาจัดประชุมแล้วบอกตลาดว่า ทางรัฐบาลได้มีการใช้มาตรการที่แน่นอนเกี่ยวกับค่าเงินแลกเปลี่ยนแล้ว ซึ่งเป็นการบอกโดยนัยอยู่แล้วว่า ทางธนาคารกลางของญี่ปุ่นนั้นมีการแทรกแซงค่าเงินไปบ้างเล็กน้อย

แต่สำหรับรายละเอียดจำนวนเงินนั้น เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าธนาคารใช้เงินไปเท่าไหร่ในการแทรกแซง หากเราอยากรู้จำนวนเงินแล้วละก็ กระทรวงการคลังนั้นประกาศตัวเล็กทุกๆปลายเดือนของทุกเดือนว่ามีการใช้เงินไปเท่าไหร่ แต่ตัวเลขนั้นเป็นเลขกลมๆในช่วงเวลาหนึ่งเดือนเท่านั้น

แต่หากเราอยากจะรู้ตัวเลขที่แน่นอนของการแทรกแซงเมื่อวันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมาแล้วละก็ เราจะต้องรอตัวเลขต่อวัน ที่จะประกาศในเดือน กุมภาพันธ์ ปีหน้าเลย

การแทรกแซงค่าเงินสำคัญมั้ย?

โดยปกติแล้วการแทรกแซงค่าเงินนั้นมีผลกระทบทางความคิดของนักลงทุนในตลาดเท่านั้น แต่ผลกระทบนั้นอยู่ไม่นานอย่างที่คิดเนื่องจากว่านโยบายความแตกต่างของดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้นมีผลกระทบมากกว่าอย่างแน่นอน

หากคิดง่ายๆแล้ว การแทรกแซงค่าเงินก็คงมีผลแค่ชั่วคราว ทำโดยธนาคารของญี่ปุ่นประเทศเดียว ก็คงไม่ต่างจากเสียงรบกวนขนาดเล็กในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (มากถึง 5 ล้านล้านดอลล่าสหรัฐ)


ปรพล ตันติธารทอง


Photo by Maxim Hopman on Unsplash

Share the Post:
Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

Related Posts

ลงทุนอสังหาฯในญี่ปุ่น การซื้อบ้าน เช่าบ้าน

แน่นอนว่าคนเรามีบ้านเป็นปัจจัยที่สำคัญ เพราะเป็นที่อยู่อาศัย บ้านในที่นี้มีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน อาทิ บ้านเดี่ยว บ้านทาวน์โฮม ตึกแถว คอนโด แมนชั่น นานาชนิดเลยครับ บางคนอาศัยถาวรก็มี บางคนมีชนิดที่อาศัยชั่วคราวก็มีตามสภาพสถานะชีวิต ณ ขณะนั้น และตามการพัฒนาการของชีวิตแล้วเมื่อเรียนหนังสือจบ เริ่มทำงาน แต่งงาน มีลูก ก็อยากจะมีบ้านเป็นของตนเอง อาจจะเป็นการเช่าหรือซื้อ ซึ่งในสภาพของสังคม กฏหมาย ภาษีที่ญี่ปุ่นนั้น ทำให้คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่เลือกที่จะซื้อบ้านแต่เช่าเอา เพราะว่า…

Read More

เทปกาวนิตโตะต่อโลกต่อเรา

ในบทความนี้ผู้เขียนขอนำเสนอบริษัทเทปกาวนิตโตะครับ หากพูดถึงเทปกาว หลายท่านคงจะนึกไปในเรื่องของการแพคขนส่งพัสดุกันมากนะครับ แต่ในความเป็นจริงเทปกาวไม่ได้ทำหน้าที่ยึดเกาะวัสดุเพียงอย่างเดียวครับ หน้าที่อื่นๆที่ใช้จริงในโลกปัจจุบันมีมากขึ้น ได้แก่ เทปที่ใช้ในทางการแพทย์ ปิดบาดแผล ส่งยาจากเทปเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนัง ลำเลียงยาไปยังจุดที่ต้องการ เทปที่ใช้ในทางอิเล็คทรอนิคส์ มือถือ รถยนต์ เซนเซอร์ เทปบนแผ่นวงจรไฟฟ้านำไฟฟ้าได้ ยืดหยุ่นได้ดี ถ่ายโอนคงามร้อนได้ดี เป็นต้น  ยังมีอีกในหลายๆวงการ อาทิ วงการศิลปะ วงการอาหาร กีฬา ด้วยนะครับ เท่ากับว่าเจ้าเทปนี้อยู่คู่กับคนเรามาตลอดเลยครับ

Read More